เศรษฐกิจสิงคโปร์ VS มาเลเซีย

ทุกท่านรู้หรือไม่ สิงคโปร์ กับ มาเลเซีย มีขนาดเศรษฐกิจที่เท่ากัน อย่างไรก็ตาม ทุกคนรู้ว่า สิงคโปร์มีจำนวนประชากรน้อยกว่าเป็นอย่างมาก รายได้เฉลี่ยต่อหัวของคนสิงคโปร์สูงกว่ามาเลเซียเกือบ 6 เท่า ทั้งที่ประเทศอยู่ไกล้กัน คนสิงคโปร์ทำธุรกิจอย่างไร ทำไมรายได้สูง ทางเราจะมาเล่าให้ฟังกัน

ในปี2018 สิงคโปร์มีมูลค่าขนาด GDP เท่ากับ 11.6 ล้านล้านบาท อยู่อันดับที่ 34 ของโลกมีประชากรเท่ากับ 5.6 ล้านคน และรายได้เฉลี่ยของคนสิงคโปร์เท่ากับ 2.1 ล้านบาทต่อปี ขณะที่มาเลเซียมีมูลค่าขนาด GDP เท่ากับ 11.3 ล้านล้านบาท อยู่อันดับที่ 35 ของโลก มีจำนวนประชากร 32.4 ล้านคน รายได้เฉลี่ยต่อหัวของคนมาเลเซียเท่ากับ 349,000 ต่อปี

จะเห็นว่าถึงแม้ GDP จะไกล้เคียงกัน แต่ด้วยจำนวนของสิงคโปร์ที่น้อยกว่า จึงทำให้รายได้ต่อหัวของสิงคโปร์มากกว่ามาเลเซียถึง 6 เท่า

เศรษฐกิจสิงคโปร์ VS มาเลเซีย JOKER88

สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีลักษณ์เป็นเกาะ ซึ่งมีขนาดเล็กที่สุดใน อาเซียน แต่สิงคโปร์นับเป็นประเทศศูนย์กลางทางพาณิชย์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก

สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางการเงินใหญ่ที่สุดอันดับที่ 4 ของโลก สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางขนส่งสินค้าผ่านท่าเรือเชิงพาณิชย์เป็นอันดับ 2 ของโลก

รายได้หลักของประเทศเกิดจาก 2 ส่วนคือ

  • ภาคอุตสาหกรรม มีสัดส่วน 25% ของ GDP
  • ภาคบริการ มีสัดส่วน 75% ของ GDP

ที่น่าสนใจ คือ ภาคเกษตรกรรมนั้น ไม่มีบทบาทในเศรษฐกิจของประเทศสิงคโปร์เลย เนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่ไม่เอื้ออำนวย

บริษัทของสิงคโปร์ที่หลายๆท่านคุ้นเคย เช่น DBS ทำธุรกิจธนาคารครบวงจรขนาดใหญ่ ปี 2018 มีรายได้ 303,209 ล้านบาท

ทางด้านมาเลเซียนั้น รายได้หลักของประเทศเกิดจาก 3 ส่วนคือ

  • ภาคอุตสาหกรรม มีสัดส่วน 37% ของ GDP
  • ภาคบริการ มีสัดส่วน 56% ของ GDP
  • ภาคเกษตรกรรม มีสัดส่วน 7% ของ GDP
เศรษฐกิจสิงคโปร์ VS มาเลเซีย

ขณะที่สินค้าส่งออกที่สำคัญของมาเลเซียคือ ก๊าซธรรมชาติ ผลิตภัฑ์ปิโตเลียม และ น้ำมันปาล์ม มาเลเซียเป็นประเทศที่มีน้ำมันดิบสำรองกว่า 3,600 ล้านบาร์เรลอยู่อันดับที่ 27 ของโลก

มาเลเซียเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันปาล์มมากเป็นอันดับที่ 2 ของโลก ซึ่งคิดเป็น 39% ของปริมาณการผลิตทั้งโลก

บริษัทของมาเลเซียที่ทุกท่านคุ้นเคยเป็นอย่างดี เช่น Petronas บริษัทน้ำมันแห่งชาติของมาเลเซีย ในปี 2018 มีรายได้ 1.9 ล้านล้านบาท กำไร 432,000 ล้านบาท ดังนั้นน่าจะพอสรุปได้ว่า

เศรษฐกิจของสิงคโปร์นั้นจะเน้นไปที่ภาคบริการ มากกว่าภาคอุตสาหกรรมเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจของมาเลเซีย แต่การที่สิงคโปร์ไม่ได้มีภาคเกษตรกรรม หรือ ทรัพยากรน้ำมัน ก็ไม่ได้ทำให้สิงคโปร์ด้อยไปกว่าประเทศมาเลเซียเลย รวมถึงประเทศไทยด้วย

การรู้จุดเด่นของตนเอง ซึ่งก็คือ ภาคบริการ โดยเฉพาะเรื่องการเงินและการขนส่ง และเน้นโฟกัสให้ตรงจุดนั้นก็เพียงพอที่จะทำให้ประเทศสิงคโปร์เป็นเพียงประเทศเดียวในอาเซียนที่ถูกจัดในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว

ข้อมูลที่น่าสนใจ

รู้หรือไม่ ว่าประเทศสิงคโปร์และมาเลเซียเคยเป็นประเทศเดียวกันมาก่อน ก่อนที่จะแยกตัวออกจากกันเมื่อประมาณ 50 ปีที่แล้ว เนื่องจากเกิดความขัดแย้งกันระหว่าทั้งคู่

นอกจากนี้ การที่สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีปริมาณน้ำจืดน้อยมาก จึงต้องมีการจัดการบริหารน้ำกันเป็นอย่างดี ทั้งการกลั่นน้ำทะเลเป็นน้ำจืด การนำน้ำที่ใช้แล้วมาใช้ซ้ำ และการนำเข้าน้ำจืดจากมาเลเซีย ซึ่งการนำเข้าน้ำจืดจากมาเลเซียนั้น มีสัดส่วนมากกว่า 50% ของความต้องการใช้น้ำในประเทศสิงคโปร์


เรายังมีบทความความรู้อื่นๆ สามารถติดตามอ่านได้ที่ Joker88 ผู้ให้บริการเกมสล็อตโจ๊กเกอร์ Joker หรือ Joker123

อยู่บ้านก็หาเงินได้ สมัครเล่นสล็อตเลยกับเรา คลิ๊กที่ด้านล่านได้เลย

ฝ่ายบริการลูกค้า

ฝ่ายบริการลูกค้า Joker Slot

ดาวน์โหลดโจ๊กเกอร์สล็อต

ดาวน์โหลด Joker Slot ระบบ iOS

iOS

ดาวน์โหลด Joker Slot ระบบ Android

Android